ต้นทุนแปรผัน คือ ต้นทุนที่มีค่าเพิ่มขึ้นตามจำนวนสินค้าที่ผลิตและบริการ ซึ่งค่าใช้จ่ายประเภทนี้จะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อมีการผลิตเท่านั้น เช่น ค่าวัตถุดิบ ค่าแรงงานการผลิต ค่าขนส่ง ค่าบรรจุภัณฑ์ ซึ่งต้นทุนประเภทนี้นอกจากจะแปรผันตามจำนวนการผลิตแล้ว ยังมีราคาขึ้นลงตามสภาวการณ์ในตลาดด้วย เช่น ค่าวัตถุดิบในตลาด ค่าขนส่งมีราคาสูงขึ้นตามราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น การปรับอัตราค่าแรงขั้นต่ำ เป็นต้น
สังเกตว่าต้นทุนผันแปรรวมจะไม่คงที่ ขึ้นอยู่กับระดับกิจกรรม ทำมากต้นทุนมาก ทำน้อยต้นทุนน้อย ในขณะที่ต้นทุนผันแปรต่อหนึ่งหน่วยผลิตจะคงที่
ต้นทุนคงที่ คือ ต้นทุนที่ไม่ขึ้นกับปริมาณการผลิต เป็นต้นทุนที่จะต้องเกิดขึ้นไม่ว่าจะมีการผลิตหรือไม่ก็ตาม โดยส่วนใหญ่จะเป็นค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการบริหาร ตัวอย่างเช่น เงินเดือนพนักงานประจำ ค่าเช่าหน้าร้าน ค่าเช่าโรงงาน ค่าเช่าออฟฟิศ ค่าเช่าเครื่องจักร ดอกเบี้ยในกรณีที่มีการกู้เงินมาลงทุน รายจ่ายในส่วนของภาษีเงินได้นิติบุคคลธรรมดา ค่าที่ปรึกษาด้านบัญชี กฎหมาย ค่าประกันต่าง ๆ ค่าโทรศัพท์ การจัดจ้าง การฝึกอบรมพนักงาน ค่าบริการอินเทอร์เน็ต ค่าอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เป็นต้น
ถึงแม้จะมีชื่อว่า ต้นทุนคงที่ แต่ต้นทุนประเภทนี้สามารถมีค่าเปลี่ยนแปลงตามเวลาได้ครับ เช่น ค่าเช่าออฟฟิศอาจจะมีราคาสูงขึ้นในอีก 5 ปีข้างหน้า หรือดอกเบี้ยเงินกู้ที่มีอัตราต่ำลง ต้นทุนคงที่จึงคงที่ในแง่ที่ว่า เป็นค่าใช้จ่ายที่ไม่แปรผันตามจำนวนการผลิตในช่วงระยะเวลานั้น ๆ ครับ
สังเกตว่าต้นทุนคงที่รวมจะคงที่ตลอดช่วงระดับกิจกรรม ทำมากหรือทำน้อยต้นทุนก็เท่าเดิม ในขณะที่หากพิจารณาแยกเป็นต้นทุนคงที่ต่อหน่วย ต้นทุนจะไม่คงที่ ถ้าผลิตมากต้นทุนจะน้อย ถ้าผลิตน้อยต้นทุนจะมาก
โดยกำไรเกิดจากสมการง่าย ๆ นั่นคือรายได้ลบด้วยค่าใช้จ่าย ดังนั้น การวิเคราะห์กำไรจึงจำเป็นต้องวิเคราะห์ต่อไปถึงรายได้และค่าใช้จ่ายของกิจการนั้น ปกตินักลงทุนจะเจอประเภทค่าใช้จ่ายหลัก ๆ ตามงบกำไรขาดทุน ได้แก่ ต้นทุนขาย ค่าใช้จ่ายในการขายและบริหาร ดอกเบี้ยจ่าย รวมไปถึงค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ตามบรรทัดในงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ
แต่ในทางบัญชีบริหารหรือบัญชีสำหรับผู้ประกอบการ ต้นทุนหรือค่าใช้จ่ายมีการแบ่งประเภทได้หลากหลายกว่าบัญชีการเงิน ซึ่งถึงแม้จะไม่ได้มีการเขียนแสดงอยู่ในงบกำไรขาดทุน แต่ในแง่สำหรับการวิเคราะห์เพื่อการลงทุนแล้ว ถือว่ามีประโยชน์มากทีเดียว โดยเฉพาะการวิเคราะห์ต้นทุนคงที่และต้นทุนผันแปร
การวิเคราะห์ต้นทุนคงที่เทียบกับต้นทุนผันแปรจึงเป็นอีกอาวุธหนึ่งที่นักลงทุนสามารถนำมาใช้วิเคราะห์การลงทุนได้ เพราะถึงแม้กิจการจะมีการเพิ่มของรายได้ไม่มาก แต่ก็สามารถเพิ่มกำไรได้มากจนผลักดันมูลค่าหุ้นให้สูงได้เช่นกัน แต่อย่างไรก็ตาม การผลักดันกำไรขึ้นอย่างมากก็สามารถส่งผลตรงกันข้ามโดยกดดันกำไรให้ลดลงอย่างมากได้เช่นกัน หากรายได้ของกิจการลดลงซึ่งนักลงทุนก็สามารถวิเคราะห์ได้ด้วยวิธีเดียวกันกับที่อธิบายข้างต้น
ถึงแม้ว่า การลดต้นทุนจะเป็นสิ่งสำคัญต่อการดำเนินอยู่ของธุรกิจ แต่อย่าลืมว่า คุณภาพของสินค้าและบริการที่ธุรกิจนำเสนอก็ยังคงเป็นสิ่งสำคัญที่สุด
อ้างอิง :
รวมบทความน่าสนใจเกี่ยวกับธุรกิจ เสริมความรู้ สร้างแรงบันดาลใจเพื่อผู้ประกอบการไทยทุกคน